เอไอเอส เปิดตัวหนังสือ “30 ปี เอไอเอส ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา” เปิดเส้นทางผู้นำเทคโนโลยี พลิกโฉมการสื่อสารไทย ตลอด 3 ทศวรรษ

28 กันยายน 2563: เอไอเอส ผู้นำเครือข่าย 5G ชั้นนำระดับภูมิภาคและอันดับ 1 ในไทยที่มีคลื่นมากที่สุด ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ เฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 30 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ จัดงานเปิดตัวหนังสือ 30 ปี เอไอเอส ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา พ็อกเก็ตบุ๊กเล่มแรกและเล่มเดียว     ที่บันทึกการเดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวตลอด 30 ปีของเอไอเอส ผ่านปลายปากกาของสมชัย   เลิศสุทธิวงค์ซีอีโอมืออาชีพ ที่ไต่เต้าจากพนักงานธรรมดา ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดขององค์กรด้านโทรคมนาคมอันดับ 1 ของประเทศ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่าหนังสือ 30 ปี             เอไอเอส ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เล่มนี้ เกิดจากความตั้งใจที่อยากสื่อสารเรื่องราวของเอไอเอส โดยผมตั้งชื่อหนังสือว่า ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา มาจากตัวตนขององค์กร ที่เป็นเพียงบริษัทธรรมดาแห่งหนึ่ง แต่มีความไม่ธรรมดาแฝงอยู่ นั่นคือการที่เราเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมการสื่อสารใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างความเปลี่ยนแปลงและยกระดับประเทศไทยให้ก้าวหน้า ทัดเทียมเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ซึ่งในทุก เรื่องราวที่เกิดขึ้น ล้วนแฝงไปด้วยบทเรียนที่องค์กรสั่งสม กลายเป็นองค์ความรู้ที่จะส่งต่อให้กับคนในองค์กร และอีโคซิสเต็มที่เกี่ยวข้องให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกัน ในทุก ช่วงเวลา ยังได้สร้างความเป็นคนทำงานมืออาชีพให้กับชาวเอไอเอส ปลูกฝังการมีหัวใจบริการอยู่ทุกลมหายใจ การมีพลังที่จะส่งต่อความสุข, ความสะดวกสบายจากสินค้าและบริการของเอไอเอสให้กับลูกค้าและคนไทยทุกคน ทั้งหมดนี้หล่อหลอมเกิดเป็นดีเอ็นเอแบบคนเอไอเอสมาจนถึงทุกวันนี้

นี่จึงเป็นบทบันทึกพัฒนาการการเปลี่ยนผ่านทั้งในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารของเมืองไทย ตั้งแต่ยุคบุกเบิก 1G เมื่อ 30 ปีก่อน อันเป็นช่วงเวลาที่การสื่อสารไร้สายเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับทุกคน จวบจนปัจจุบันที่เครื่องมือสื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนเปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ และก้าวมาถึงยุค 5G ตลอดจนการพัฒนาคนมืออาชีพในแบบฉบับเอไอเอส เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยผมวางแนวทางการเขียนหนังสือโดยใช้ปรัชญา 3 คำ ในทุก บท ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่ผมใช้ในการทำงาน กับทุก คนที่เกี่ยวข้องในชีวิตการทำงานของผมอีกด้วย

นอกจากเนื้อหาเต็มอิ่มถึง 16 บทแล้ว ความพิเศษของการจัดทำหนังสือเล่มนี้ ยังอยู่ที่การผสมผสานความเป็นแอนาล็อกและดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน โดยจัดทำเป็นหนังสือเล่มที่จัดพิมพ์บนกระดาษ EcoFiber 100% ซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากร ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและ E-Book ในรูปแบบมัลติมีเดียที่มีครบทั้งภาพและเสียง ซึ่งในหน้าสุดท้ายของแต่ละบท ผู้อ่านสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด หรือกดรับชมภาพความประทับใจในแต่ละช่วงเวลาตลอด 30 ปี ของ เอไอเอส ในรูปแบบคลิปวิดีโอ  

ส่วนใน E-Book ยังเพิ่มเติมความเป็นหนังสือเสียง หรือ Audio Book ที่ร่วมถ่ายทอดโดยบุคคลพิเศษที่เกี่ยวข้องกับเอไอเอส ไม่ว่าจะเป็นน้องแบงค์วชิรธรรมและน้องแพรกวิษณุเยาวชนตัวแทนจากโครงการ AIS คนเก่งหัวใจแกร่ง, “คุณโอมนัฐภูมิพนักงาน Call Center ผู้พิการ ที่ได้รับโอกาสเข้าทำงานกับเอไอเอส เป็นที่แรก หลังจากพยายามหาตำแหน่งงานที่เปิดรับผู้พิการอยู่นาน, “คุณเจมส์จิรายุพรีเซ็นเตอร์ AIS 3G คนแรก และกลุ่มพนักงานเอไอเอสจากหลากหลายหน่วยงาน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางกว่า 3 ทศวรรษผ่านหนังสือ 30 ปี เอไอเอส ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ในราคา 250 บาทผ่าน 3 ช่องทางการจัดจำหน่าย ได้แก่ AIS Online Store, แอปพลิเคชัน OokBee, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 (บูธมติชน H26) ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคม 2563 ชาเลนเจอร์ 2        อิมแพค เมืองทองธานี โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือทั้งหมด หลังหักค่าใช้จ่าย เอไอเอสจะมอบให้แก่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน)

 

หมายเหตุ : กรณีหากต้องการสั่งซื้อจำนวนมาก สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เอไอเอส 020295680

   email : prapaphs@ais.co.th

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้าน Digital Life Service Provider อันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1450 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 41 ล้านเลขหมาย ( มิถุนายน 2563) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัดแล้วเป็นรายแรกผ่าน 3 สายธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง(IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ อาทิ  AIS eSports, AIS Insurance ทั้งหมดนี้ เพื่อสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน