นายอุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ริเริ่มโครงการ เปิดเผย
ว่าได้จัดโครงการ สร้างวินัย รักษาความสะอาดในชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นโครงการต้นแบบให้กับประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างวินัย รักษาความสะอาด และเพื่อลดภารกิจของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เป็นการช่วยประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะของภาครัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการโครงการนี้ ได้เล็งเห็นถึงการสร้างวินัย รักษาความสะอาดในชุมชน ดังกล่าวจะก่อให้เกิดนิสัยในการรักษาความสะอาดซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นโดยตรงกับประชาชน ก็คือจะได้พื้นที่ที่มีความสะอาดสวยงาม นำไปสู่ชุมชนน่าอยู่ เมืองน่าเที่ยว และผลดีต่างๆ นานา ที่จะตามมา อันไม่อาจประเมินคุณค่าได้ เพราะที่ผ่านมาจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นจังหวัดที่อยู่แล้วเป็นสุขมากที่สุดของประเทศไทย
ที่ตนทำโครงการนี้ไม่ใช่ในฐานะเป็นที่ปรึกษา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ทำในฐานะลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อไขของคนสุพรรณบุรี หลังจากที่นายบรรหาร ศิลปอาชา เสียไปแล้วทำให้จังหวัดสุพรรณบุรีมีสภาพความเสื่อมโทรมค่อนข้างสูง ที่เห็นได้ชัดก็คือเรื่องของขยะที่อยู่ตามพื้นที่ของถนนหนทางต่างๆ ซึ่งเมื่อก่อนคนสุพรรณบุรีจะเห็นเสมอว่าถ้านายบรรหารพบเศษขยะจะเก็บด้วยตัวเองเสมอมา ดังนั้นเมื่อนายบรรหาร เสียไปแล้ว เราคงไม่ยอมให้บ้านเราสุพรรณบุรีของเราเสียไปกับนายบรรหาร ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ทำให้เราละอายใจ เพราะที่ผ่านมานายบรรหารทำให้เราไว้นั้น เป็นเมืองตัวอย่าง เมืองต้นแบบ เมืองที่น่าอยู่และมีความสุขที่สุดในประเทศไทย และเมื่อปี 2554 สุพรรณบุรียังขึ้นทำเนียบว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ นี้คือผลงานของนายบรรหาร ที่น่ายกย่องเชิดชู
จากการที่ติดตามนายบรรหาร เห็นการทำงาน ทำให้ซึมซับมาโดยตลอดและหวังว่าสักวันจะช่วยท่านพัฒนาสุพรรณบุรีบ้านเกิดของเรา จะเห็นได้ว่าในช่วงท่านมีชีวิตอยู่แม้แต่กลางคืนนั่งรถมาเที่ยงคืน ตีหนึ่งตีสอง ท่าจะให้คนขับรถพาตะเวนไปดูพื้นที่ถนน ดูไฟฟ้า ดูน้ำ ดูความทุกข์ยากของพี่น้องชาวสุพรรณบุรี และท่านก็จะแก้ไขปัญหาให้ทันที แม้แต่พบไฟฟ้าไม่ติดในช่วงกลางดึกก็ต้องเรียกแขวงการทางมารีบจัดการ แต่พอท่านเสียไปแล้วสภาพไม่ใช่แล้ว เพราะไม่มีคนกระตุ้น จึงกลายเป็นปล่อยปะละเลย สภาพคนทิ้งจึงมากกว่าคนเก็บ เพราะอย่างไรเจ้าหน้าที่ของรัฐยังไงก็เก็บไม่ทัน จึงกลายเป็นความเคยชิน อย่างที่เห็นโซเชียลต่างๆที่ลงในทางที่เสียหายกับสุพรรณบุรีว่าท่านไปแล้วไม่มีคนมาสานต่อ เราจึงเป็นหนึ่งที่เกิดที่สุพรรณบุรีและเคยติดตามทำงานกับท่าน และยังเห็นท่านตั้งแต่ยังเล็กประมาณ 10 ขวบ ดังนั้นเมื่อเรามีโอกาสดีๆและอยู่จังหวัดที่มีพร้อมอยู่แล้วจึงขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการที่จะมาทำสานต่องานของท่าน มาต่อยอดมารักษาสิ่งที่ท่านทำ ไม่ต้องทำดีเท่ากับท่าน เอาแค่รักษาสิ่งที่ท่านทำไว้ให้เราให้ดีให้อยู่ตลอดไป เราก็ภาคภูมิใจ และที่เห็นเป็นอันดับแรกก็คือขยะ ขับรถผ่านไปผ่านมาตรงไหนก็มีแต่ขยะ โดยเฉพาะพื้นที่ที่รกร้างว่างเปล่า ไม่มีเจ้าของ ไม่มีคนอยู่อาศัย ส่วนตามตึกลามบ้านช่องก็ยังมีอยู่บ้างแต่ยังไม่มีความระเบียบเรียบร้อย ตนจึงสร้างโครงการ สร้างวินัย รักษาความสะอาดในชุมชน โดยให้ทุกคนตระหนักว่า ถ้าราทุกคนมีวินัยและรักความสะอาด ทุกวันนี้ไม่มีคนเก็บให้เรา แต่ถ้าเรามีวินัยกันเอง ตนเชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ถือว่าเป็นการรักษาสมบัติที่นายบรรหารทำไว้ให้พวกเราชาวสุพรรณบุรี น่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมได้ดีที่สุด
นายอุดม กล่าวต่อว่าโครวงการนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการเป็นรูปธรรม ที่มีความเห็นแนวคิดเดียวกัน เหมือนกับชวนกันไปทำ โดยในอนาคตจะพยามยามทำให้ทั่วสุพรรณบุรีเท่าที่จะทำได้ โดยจะทำอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่ทำที่ผ่านมาทำไป 1 กิโลเมตร สองเส้นทางไปกลับรวมแล้ว 16 กิโลเมตร ใช้คนประมาณ 700 คนกระจายเป็นจุด ซึ่งถือว่าพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ให้ความร่วมมือดีมากเห็นแล้วปลื้มใจแทนนายบรรหาร จะเห็นได้ว่าหลายๆแห่งที่เราทำมาแล้วประมาณ 1 เดือนไม่มีขยะให้เห็น เพราเรามีการโฟโล่มีการติดตาม สำรวจตลอดและยังมีป้ายให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่าสิ่งที่เราทำเป็นการสร้างวินัย คุณทิ้งเราก็เก็บต่อหน้าคนทิ้ง ทิ้งได้ทิ้งไปเราก็จะเก็บ จนกว่าวันหนึ่งจะมีสามัญสำนึกขึ้นมา