ตรัง ประชาชนฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวและห้ามชุมนุมมั่วสุม




เจ้าหน้าที่ตรวจภูธรจังหวัดตรัง ยังคงจับกุมประชาชนที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว และประชาชนที่มั่วสุม ขัดคำสั่งประกาศเคอร์ฟิวและคำสั่งห้ามชุมนุม กว่า 200 คดี  ผู้ถูกจับกุมกว่า 300 คน

พล.ต.ต.ถาวร  แสงฤทธิ์  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดตรัง  กล่าวว่า ตั้งแต่การประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยห้ามประชาชนออก นอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 ของอีกวันนั้น  ซึ่งตั้ง แต่วันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมามีประชาชนฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว ออกนอกเคหะสถาน จำนวน  214 ราย  214 คดี  มีผู้กระทำผิด 222 คน  ซึ่งในจังหวัดตรังนั้นมีการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศ เคอร์ฟิวทุกวัน ผู้ที่ฝ่าฝืนส่วนใหญ่ในพื้นที่อำเภอห้วยยอด   อำเภอนาโยง   อำเภอกันตัง และอำเภอเมืองตรังบางส่วน  และส่วนใหญ่ที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวนั้น สาเหตุมาจากออก ไปทำธุระ  กลับบ้านไม่ทัน ขับรถเล่นก็มี  การเสพขับ  เมาแล้ว ขับ และการค้ายาเสพติด ทั้งที่ก็ทราบอยู่แล้วว่าฝ่าฝืนประกาศ เคอร์ฟิวนั้นมีความผิด แต่ก็ยังออกมาจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม

หลังจากนั้นได้มีคำสั่งห้ามชุมนุมมั่วสุมกัน เพื่อ ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19  แต่ไม่ได้กำหนดเป็น ช่วงเคอร์ฟิว  ถ้าเป็นการชุมนุมมั่วสุม เป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ ระบาดของโรค ก็ถือว่ามีความผิด มีการจับกุมดำเนินคดีมา แล้ว  24 คดี ผู้ต้องหา 105 คน ทั้งหมดที่ถูกจับกุมนั้นจะเป็น เรื่องของเล่นการพนันและการดื่มสุรา  แต่ส่วนใหญ่จะเป็น เรื่องเกี่ยวกับการพนัน  ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูก จับกุมในการฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวนั้น เมื่อนำตัวส่งฟ้องศาล แล้วมีจะโทษจำคุกและปรับ  ซึ่งโทษจำคุกนั้นเป็นระยะเวลา 1 เดือน รอลงอาญา ส่วนการปรับนั้นต่ำสุด 2 พันบาท สูงสุด 5 พันบาท  ในส่วนของโทษการชุมนุมมั่วสุมนั้น มีโทษจำคุก 1 เดือน และมีบางรายที่มีพฤติกรรมศาลสั่งให้จำคุก 2 เดือน และค่าปรับตั้งแต่ 2,000-8500 บาท   ส่วนที่ค่าปรับน้อยนั้น อาจจะมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ต่ำและอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ว่าจะมีคำสั่งเช่นไร อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สถานีตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ยังคงมาตรการเข้มงวดอย่าง ต่อเนื่อง จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง