จากรณีได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 6 ตงปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ว่ามีกลุ่มผู้ประกอบการเลี้ยงปลาในกระชัง ได้นำกระชังลงเลี้ยงปลาในแม่น้ำท่าจีนจำนวนมาก เกรงว่าจะเกิดทำให้น้ำน่าเสียและเกิดมลพิษต่างๆ ซึ่งเคยประสบกันมาแล้ว ต่อมานายวัฒนา ยั่งยืน ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย ประมงจังหวัด โยธาฯ กรมเจ้าท่าฯและสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้ความเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งรุกล้ำลำน้ำ(กระชังปลา)ลำน้ำท่าจีนในพื้นที่อำเภอเดิมบางนาง พบว่ามีผู้ประกอบการ ที่เคยเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากน้ำที่นำมาทำน้ำประปามีกลิ่นคาว และเน่าเสียเกิดจากเศษอาหารปลา และของเสียจากขี้ปลาที่สะสมทุกวัน ส่งผลต่อชีวิตประจำวันประชาชนกว่า 4 พันหลังคาเรือน ในพื้นที่ อ.ด่านช้าง ทำให้ผู้ประกอบการหนีมาเลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำท่าจีน พื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช
นายวัฒนา กล่าวว่าจากการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านทราบว่าผู้ประกอบการอ้างว่าได้ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าแล้ว จึงต้องพิจารณาว่าเป็นเรื่องของกรมเจ้าท่าที่อนุญาตให้เขาก่อสร้างสิ่งรุกล้ำทางน้ำ จริงๆแล้วอำนาจและพิจารณาเป็นเรื่องของกรมเจ้าท่า แต่เบื้องต้นทราบว่ากรมเจ้าท่ายังไม่ได้อนุญาต ตนในฐานะคณะกรรมการคิดว่า เรื่องนี้ยอมไม่ได้ เพราะถือว่าประกอบการเอาเปรียบชาวบ้าน ที่ใช้วิถีชีวิตในแม่น้ำท่าจีนมาเป็นเวลานาน ถ้าปลาในกระชังเกิดเหตุการณ์แบบที่เขื่อนกระเสียวอีก ชาวบ้านต้องเดือดร้อนจากการใช้น้ำแน่นอน ที่สำคัญระบบทำประปาก็อยู่ไมไกลจากจุดที่เลี้ยงปลาในกระชัง จึงขอวอนผู้ประกอบการให้หยุดเลี้ยง ถ้าไม่หยุดจะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป และเชื่อว่าถ้าไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง จะต้องมีประกอบการแห่กันเลี้ยงปลาในกระชังกันมากขึ้นแน่นอน นายวัฒนากล่าว
ด้านนายไชยันต์ อยู่ศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ปากน้ำ กล่าวว่าผู้ประกอบรายดังกล่าวทราบว่าเป็นคน อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี และเคยเลี้ยงปลาในกระชังที่เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง ต่อมาทางราชการให้หยุดเลี้ยงจึงหนีมาเลี้ยงในลำน้ำท่าจีน เรื่องนี้ตนและชาวบ้านคงยอมไม่ได้ เพราะขณะนี้บริเวณที่ลงกระชังปลาได้มีการเลี้ยงแล้วประมาณ 1 เดือน มีอยู่เกือบ 100 กระชัง เริ่มมีกลิ่นเหม็นคาวจากอาหาร และโดยเฉพาะชาวบ้านยังใช้น้ำทำประปาหมู่บ้านอีกด้วย ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันชาวบ้านหลายร้อยหลังคาเรือน
