“น้าสน” เผยงบปี 63 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท ล่าช้าค่อนข้างมาก เตรียมเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เสร็จภายใน 6 เดือน ชี้ตามกำหนดการเดือนมี.ค.ต้องได้เงินกระจายลงพื้นที่แล้ว ระหว่างนี้ได้เร่งรัด กฟผ.-ปตท. ลงทุน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เงินบาทกำลังแข็งค่า
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรว่า ยอมรับว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ล่าช้าค่อนข้างมาก เข้าสู่เดือนมกราคมแล้วงบยังไม่ผ่านการพิจารณา ซึ่งตามกำหนดการเดิมงบดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาในช่วงปลายเดือนมกราคม นี้ คาดว่าจะใช้งบได้จะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แล้วมีการเบิกจ่ายอนุมัติการใช้เงินได้ภายในเดือนมีนาคม 2563 ทำให้มีเวลาในการใช้จ่ายน้อยมากประมาณ 6 เดือน เมื่อไปดูภาคการลงทุน ภาคค่าใช้จ่ายของรัฐจะเห็นว่าตัวเลขติดลบค่อนข้างเยอะ จึงต้องดำเนินการให้อยู่ในกรอบของเวลา
ในส่วนของกระทรวงพลังงานอะไรก็ตามที่จะใช้งบประมาณเมื่อผ่านการพิจารณาของสภาฯแล้วก็จะเร่งรัดทันที ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายเตรียมได้พร้อมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม งบส่วนใหญ่ของกระทรวงกระทรวงพลังงานเป็นงบประจำ ไม่ใช่งบลงทุน จึงไม่มีปัญหามากนักสามารถบริหารจัดการได้
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ในช่วงระหว่างรองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านการพิจารณาของสภาฯ ซึ่งอยู่ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าจึงได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เร่งรัดการลงทุน การนำเข้าอันไหนทำได้ก็ให้ทำไปก่อนเลย ตามนโยบายของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สองด้านคือ ใช้ความได้เปรียบค่าเงินบาทที่กำลังแข็งค่าเพื่อการลงทุน และเป็นการช่วยประเทศทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้ ซึ่งตนได้เร่งรัดหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งสองแห่งไปแล้ว