สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดโครงการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและสร้างรายได้แก่ชุมชนให้เกิดความยั่งยืนแก่ชุมชนคนกาญจน์ โดยได้นำคณะสื่อมวลชนและผู้ประกอบการ พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสำรวจยัง 3 เส้นทาง ในอำเภอศรีสวัสดิ์
เส้นทางที่ 1 ของทริปนี้ คณะของเราได้เดินทางเข้าไปชมวิถี ชุมชนปลายนาสวน ต.นาสวน ซึ่งห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 150 กม. ต้องเดินทางโดยรถยนต์และข้ามแพขนานยนต์ เพื่อที่จะเดินทางจากฝั่ง ต.ท่ากระดาน ไปยังที่หมาย ซึ่งแพขนานยนต์ใช้เวลาในการข้ามฟากประมาณ 15 นาที จากนั้นเราเดินทางต่อโดยรถยนต์ตู้ โดยที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยง ที่หมายแรกเราได้มุ่งหน้าไปยังถ้ำองจุ ซึ่งเป็นถ้ำที่กว้างใหญ่บนเขาสูงชัน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 ตำบลนาสวน เป็นถ้ำขนาดกว้าง ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปนอนและนั่งองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านโดยทั่วไป คำว่าองจุ ชาวกะเหรี่ยงเล่าว่า ผวนมาจาก โอ่งจุ ซึ่งมีโอ่งหินปูนที่เกิดจากน้ำหยดลงมาจากผนังถ้ำ จนกลายเป็นโอ่งน้ำ ภายในโอ่งสามารถบรรจุน้ำได้ และเรียกเพี้ยนมาภายหลังว่า องจุ
ต่อมาเราได้เดินทางต่อลงมาสักการะพระธาตุนาหลวง ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวัดนาสวน ไม่ไกลจากถ้ำองจุมากนัก พวกเราได้ชมการทอผ้าเยี่ยมชมกลุ่มหัตถกรรมทอผ้ากี่เอวของชาวกะเหรี่ยง พร้อมทั้งซื้อผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมืองของชาวกะเหรี่ยงติดไม้ติดมือเป็นของฝาก พร้อมการรับผู้ข้อมือบายศรีสู่ขวัญประเพณีกะเหรี่ยงเป็นการเรียกขวัญ และได้ชมประเพณีค้ำโพธิ์ที่เป็นความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงที่ว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาที่ทำกันทุกปีประมาณเดือน 5 เดือน 6 จากนั้นได้เดินทางไปดูวิถีความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยงริมน้ำ และชมพระอาทิตย์ลับยอดเขาบนเนินเขาแรด ก่อนที่จะกลับไปรับประทานอาหารค่ำ ที่เป็นเมนูของชุมชน มี แกงข้าวเบือขาหมู แกงส้มเผือกปลาย่าง น้ำพริกแตงเปรี้ยว หมกปูปลา รสชาติร้อนแรงเป็นที่ถูกลิ้นพวกเรา จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าที่พักที่โฮมสเตย์ปลายนาสวน ขอบอกเลยว่า เราได้รับไมตรีจากชุมชนที่นั่นอย่างดีมาก
วันที่สอง หลังจากที่เรารับประทานอาหารเช้าเบาๆกันแล้ว ก็ได้เดินทางต่อไปยัง ชุมชนบ้านแม่กระบุง ต.แม่กระบุง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ 2 ในทริปนี้ โดยต้องข้ามแพขนานยนต์ที่ต้องใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อที่จะผ่านอุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ เข้าไปยังพื้นที่
ใช้เวลาประมาณแค่อึดใจ เราก็ออกมาจากเกาะหมาก เพื่อเข้าชุมชนไปชมขั้นตอนของการทอผ้าของชุมชนชาวกะเหรี่ยงกัน ต่อด้วยดูการสาธิตการทำขนมทองโย๊ะ ก่อนที่จะเดินทางไปชมผลิตภัณฑ์สมุนไพร และร่วมกันรับประทานอาหารกลางวันพื้นบ้าน มีเมนูเด็ดคือ แกงข้าวคั่วใบส้มป่อย แกงซะกะป๊ะ ลาบหัวปลี ห่อหมกดอกขมิ้น ต้มใบกระเจี๊ยบ อย่างอิ่มหนำสำราญลิ้น หลังจากนั้น คณะเราได้เดินเข้าไปชมถ้ำพระปรางค์ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า พระปรางค์ เป็นที่เคารพนักถือของชาวบ้านทั่วไป มีการทำพิธีขอฝนในยามแล้ง เป็นถ้ำที่พระใช้มานั่งวิปัสสนากำมถาน และถ้ำนี้มีงูอาศัยชุกชุมแต่ไม่ทำร้ายคน ออกจากถ้ำแล้วเราก็เดินทางต่อไปชมตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ ชมชีวะวิถีที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ชมพิพิธภัณฑ์ราชานุรักษ์ นาฬิกาแดด สวนเวลารำลึก ไหว้หลวงพ่อ 7 กษัตริย์ ชมวิวทิวทัศน์บนสันเขื่อนศรีนครินทร์
บ่ายคล้อยของวันที่สาม คณะเรามุ่งหน้าไปยัง ชุมชนบ้านแก่งแคบ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ 3 ของทริปนี้ โดยเราได้แวะพักกันที่แพพักปลาสวยน้ำใส ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำบลแก่งแคบ เราได้เครื่ององค์ทรงเครื่องเพื่อที่จะลงแพเปียกชมวิว 2 ฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ชมิวเขาและสถานที่พักริมแม่น้ำที่สร้างไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้เลือก และลงเล่นน้ำกันให้เป็นที่ชื่นใจ ก่อนที่จะร่วมรับประทานอาหารค่ำกันแพพักปลาสวยน้ำใส ซึ่งมีเมนูเด็ดได้แก่ แกงป่าไก่หยวกกล้วย น้ำพริกกะปิมอญ ยำผักกูด แกงหนามยอก ก่อนที่จะเข้าพักที่โฮมสเตย์บนแพและบนบ้านแก่งแคบ
ตื่นเช้าขึ้นมา คณะเราได้ถือโอกาสสั่งสมบุญโดยร่วมกันตักบาตรพระบนแพ ต่อด้วยการรับประทานข้าวต้มมื้อเช้า ก่อนที่จะเดินทางไปทำกิจกรรมในพื้นที่บ้านแก่งแคบ เดินชมเส้นทางธรรมชาติศูนย์การเรียนรู้วัวแดง พวกเราสนุกกับการถ่ายภาพที่นั่น และร่วมกันทำโปร่งดิน เสร็จจากตรงนั้น เรากลับไปรับประทานอาหารเที่ยงพื้นถิ่นที่ชุมชนบ้านแก่งแคบ เตรียมเมนูอร่อยไว้ต้อนรับ มีแกงป่าปลาคัง ปลาแรดทอดกระเทียม ลาบปลา แกงเหลืองหน่อไม้ดอง และต้มยำกระดูกอ่อน เป็นเมนูเด็ดของมื้อนี้ก่อนที่จะเดินทางกลับกัน หวังว่านักท่องเที่ยวคงจะไม่พลาดที่จะแวะเวียนมาสัมผัสทั้ง 3 เส้นทางท่องเที่ยวเมืองรองที่มีเสน่ห์ของอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ขอแนะนำ
#ท่องเที่ยวโดยชุมชน #ทกจกาญจนบุรี #เที่ยวกาญจน์ #ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน