ททท. จับมือ GC และมูลนิธิ ECOALF จัดงาน “Shade of Blue Ocean ร่วมแรงร่วมใจทะเลไทยสวยงาม” ภายใต้โครงการ “Upcycling the Oceans, Thailand” ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย
เมื่อช่วงวันที่ 21 ธันวาคม 2562 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติเป็นประธานปล่อยตัวจิตอาสา กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ท้องทะเล และบริเวณชายหาด ในงาน “Shade of Blue Ocean ร่วมแรงร่วมใจทะเลไทยสวยงาม” ภายใต้โครงการ “Upcycling the Oceans, Thailand” โดยมี ดร.ชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) และนายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ประเทศสเปน ร่วมพิธี พร้อมด้วยดารานักแสดง จ๊อบ – นิธิ สมุทรโคจร, ตั๊ก – บริบูรณ์ จันทร์เรือง และครอบครัว, นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ร่วมเก็บขยะและรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ หน้าสถานีรายงานบ้านเพ หาดเภตรา จังหวัดระยอง ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคม 2562
เมื่อช่วงวันที่ 21 ธันวาคม 2562 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติเป็นประธานปล่อยตัวจิตอาสา กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ท้องทะเล และบริเวณชายหาด ในงาน “Shade of Blue Ocean ร่วมแรงร่วมใจทะเลไทยสวยงาม” ภายใต้โครงการ “Upcycling the Oceans, Thailand” โดยมี ดร.ชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) และนายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ประเทศสเปน ร่วมพิธี พร้อมด้วยดารานักแสดง จ๊อบ – นิธิ สมุทรโคจร, ตั๊ก – บริบูรณ์ จันทร์เรือง และครอบครัว, นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ร่วมเก็บขยะและรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ หน้าสถานีรายงานบ้านเพ หาดเภตรา จังหวัดระยอง ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคม 2562
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลกมาโดยตลอด เห็นได้จากการจัดอันดับของ Trip Advisor ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมักจะได้รับการโหวตให้เป็น Travelers’ Choice ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมที่สุดในโลกมาโดยตลอด เช่น จังหวัดระยอง ชลบุรี ที่อยู่ทางฝั่งอ่าวไทย และภูเก็ต กระบี่ ซึ่งอยู่ทางฝั่งทะเลอันดามัน เป็นต้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทย ได้ดำเนินการทุกวิถีทางร่วมกันทุกภาคส่วนในการจัดการปัญหาขยะทางทะเล ซึ่งประเทศไทยก็ดำเนินการได้เป็นอย่างดี ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2562 พบว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับประเทศที่ทิ้งขยะลงในทะเลมากเป็นลำดับ ที่ 10 ซึ่งเป็นลำดับที่ดีขึ้นจากอดีต ทั้งนี้ปริมาณขยะประมาณร้อยละ 80 นั้นมาจากบนบก ส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติก ขวดน้ำ และเศษอาหาร ข้อมูลจากการสำรวจ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร้อยละ 10 ของขยะที่ตกค้าง มาจากการจัดการที่ไม่ถูกวิธี บนชายฝั่งไหลลงสู่ทะเล ปีละประมาณ 50,000 – 60,000 ตันต่อปี นำไปสู่ผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ในฐานะองค์กรหลักที่ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด จึงได้ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ราชอาณาจักรสเปน ดำเนินโครงการ Upcyclingthe Oceans, Thailand มาตั้งแต่ปี 2560 ด้วยความตระหนักในความสำคัญของการจัดการแก้ปัญหาขยะในท้องทะเลไทย และการสร้างจิตสำนึกแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ในการเข้ามามีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ทะเลไทยใสสะอาดพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนตราบนานเท่านาน นอกจากนี้ โครงการฯ ของเรายังมีการต่อยอดนำความรู้ ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ขยะที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นคุณค่าให้กลับมาเป็น สินค้าแฟชั่นที่มีการออกแบบอย่างร่วมสมัยถือได้ว่าเป็นการยกระดับจาก Recycling เป็น Upcycling โดยโครงการฯ ได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2560 ในพื้นที่นำร่องที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยองสามารถรวบรวมขยะทั้งหมดจำนวน 618.90 กิโลกรัม แบ่งเป็นขยะจากชายหาดและบนบก 445.30 กิโลกรัม และขยะจากใต้น้ำ 173.60 กิโลกรัม ปีพ.ศ. 2561 ดำเนินการในพื้นที่หาดป่าตอง หาดในหาน และหาดในยาง จังหวัดภูเก็ต สามารถรวบรวมขยะทั้งหมดจำนวน 852.60 กิโลกรัม แบ่งเป็นขยะจากชายหาดและบนบก 672.10 กิโลกรัม และขยะจากใต้น้ำ 180.50 กิโลกรัม จากกิจกรรม Upcycling the Oceans, Thailand ในวันนั้นถือเป็นการจุดประกายและร่วมมือแก้ไขปัญหาด้านขยะทะเล
วันนี้เป็นอีกครั้งที่พันธมิตรทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง ดำเนินการจัดกิจกรรม “Shade of Blue Ocean” ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็นพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งมีศักยภาพในการดำเนินกิจกรรมที่หลายภาคส่วนในพื้นที่ให้การสนับสนุนจิตอาสาร่วมกันจัดกิจกรรมเก็บขยะบริเวณชายหาด รวมถึงท่าเรือและการปล่อยตัวจิตอาสานักดำน้ำร่วมกัน เก็บขยะใต้น้ำ รวมแล้ววันนี้มีจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 500 คน นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี และที่สำคัญไปกว่านั้นต้องอาศัยความร่วมมือกับเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงจิตอาสา ประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ทุก ๆ ท่าน
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมมือกันทำให้เกิดงานในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทศบาลเมืองระยอง เทศบาลตำบลเพ อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด นักดำน้ำ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและชาวจังหวัดระยองทุกท่าน ททท.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand นี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ทุกภาคส่วนเกิดความตระหนักและเข้ามา มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยว รักษาทรัพยากรธรรมชาติของท้องทะเลอย่างยั่งยืน แม้ว่าเราจะมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกปี แต่ผมเชื่อว่าถ้าเราสร้างนักท่องเที่ยวที่มีใจอนุรักษ์ได้แล้ว แม้ว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณขยะในแหล่งท่องเที่ยวจะต้องลดลงอย่างแน่นอน”
ดร. ชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจัดงาน Shade of Blue Ocean ในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของการสานต่อโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand โดยความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย GC และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์เพื่อการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 3 เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการ เพื่อการจัดการขยะในทะเลและการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยอย่างยั่งยืน พร้อมนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในการดำเนินโครงการ โดยคำนึงถึงการนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด มาใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การเก็บรวบรวมขยะเพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยความร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี โครงการสามารถรวบรวมปริมาณขยะพลาสติกที่เก็บได้จากบริเวณชาย หาดและในทะเลระยองจำนวน 20 ตัน และนำมาผ่านกระบวนการอัพไซเคิลด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้ขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นมากมาย อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋าที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะซึ่งนับเป็นการช่วยลดปริมาณขยะและสร้างความยั่งยืนให้กับโลก นอกจากนี้ ในอนาคต เรายังมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการUpcyclingtheOceans,Thailand ต่อไป
โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าให้มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมทั้งนำโครงการฯ เป็นโมเดลเพื่อต่อยอดสู่โครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะต่อไป”ในงาน Shade of Blue Ocean นี้ ผู้ร่วมโครงการจะได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมตั้งแต่การเก็บขยะ การคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างไลฟ์สไตล์แบบ Circular Living เพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก “Shade of Blue Ocean” เพื่อปลูกจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง นอกจากนี้ยังมอบถังขยะให้กับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า, เทศบาลตำบลบ้านเพ และชุมชนต่างๆ ในจังหวัดระยอง ซึ่งภายในงานได้นำเอาวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และวัสดุเหลือใช้ที่กลายเป็นขยะมาดัดแปลงเพื่อตกแต่งสถานที่ มีการจัดนิทรรศการ DIY จากขยะ และกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “Shade of Blue Ocean – ร่วมแรงร่วมใจ ทะเลไทยสวยงาม” และหัวข้อ “Responsibility Rayong – รักษ์ระยองยั่งยืน”