สนช.ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี สำรวจและศึกษาสภาพปัญหาด้านการกำจัดขยะ หาแนวทางแก้ไขและป้องกันการเกิดมลภาวะที่ไม่พึงประสงค์
คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประกอบด้วย พลโท ชัยยุทธ พร้อมสุข และพลเอก องอาจ พงศ์ศักดิ์ พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานเทศบาลตำบลอู่ทอง สำนักงานเทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ศึกษาสภาพปัญหาด้านการกำจัดขยะ ในโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ณ จังหวัดสุพรรณบุรี
ทั้งนี้ พบว่า เทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง เริ่มจัดเก็บขยะมูลฝอยภายในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง และนำไปทิ้งบริเวณพื้นที่บ่อขยะบ้านเขาพระ หมู่ที่ 5 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับเทศบาลตำบลอู่ทอง เรื่องการจัดการขยะ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 เพื่อให้การทิ้งขยะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แก้ไขปัญหาการเผาขยะในพื้นที่ และป้องกันการเกิดมลภาวะที่ไม่พึงประสงค์ ปัจจุบันปริมาณขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลท้าวอู่ทองมีประมาณวันละ 16 ตัน ทำให้เกิดปัญหาในด้านต่าง ๆ อาทิ การทิ้งขยะไม่ถูกที่ ควัน ฝุ่นละออง ไฟลุกลามในพื้นที่ชุมชน รวมถึงการสร้างที่พักอาศัยในบริเวณพื้นที่บ่อขยะ และปัญหาการบริหารจัดการพื้นที่บ่อขยะเนื่องจากพื้นที่บ่อขยะฯ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาตะโกปิดทอง และป่าเขาเพชรน้อย ทำให้ไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ได้
จากการดำเนินการของจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหาปริมาณขยะล้น เทศบาลตำบลท้าวอู่ทองได้ร่วมกับเทศบาลตำบลอู่ทองจัดแบ่งรอบการปรับเกลี่ยพื้นที่บ่อขยะด้วยการฝังกลบโดยใช้เครื่องจักรทำให้เกิดความเรียบร้อย สามารถรองรับปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อให้การบริหารจัดการขยะแบบฝังกลบและการผลิตเชื้อเพลิงแข็ง ทางเทศบาลตำบลท้าวอู่ทองได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาตะโกปิดทองและป่าเขาเพชรน้อย จำนวน 20 ไร่ จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุพรรณบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ นอกจากนี้ได้มีการจัดอบรมโครงการคัดแยกขยะมูลฝอย เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการคัดแยกขยะเป็นการเพิ่มรายได้ในครัวเรือนและลดปริมาณขยะมูลฝอย โดยสิ่งที่ต้องการแก้ไขเป็นการเร่งด่วน ได้แก่ การควบคุมการทิ้งขยะในพื้นที่
โอกาสนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้เสนอแนะว่า การบริหารจัดการขยะในประเทศส่วนใหญ่จะใช้ระบบการกลบฝัง ซึ่งในระยะยาวนอกจากไม่สามารถรองรับปริมาณขยะจำนวนมากได้แล้ว จะต้องจัดหาพื้นที่เพื่อกลบฝังเรื่อยไป ดังนั้น จะต้องมีรูปแบบการกำจัดขยะแบบอื่นที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ ทั้งนี้ สนช. จะนำปัญหาที่ได้รับไปหารือกับทางจังหวัดเพื่อหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่อไป