วันนี้(1 ต.ค.62)ที่ห้องประชุมร่วมใจ รพ.ศุภมิตร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นพ.เมธ โชคชัยชาญ ประธานคณะกรรมการอำนวยการ เป็นประธานเปิดงาน ครบรอบ 28 ปี เปิดบ้าน “ศุภมิตร มิตรดี ที่คุณอุ่นใจ” ก้าวต่อไปของศุภมิตร สู่ปีที่ 29 องค์กรแห่งความสุข
โดยมี ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย กรรมการอำนวยการ และประธานคณะกรรมการฝ่ายนโยบายและยุทธศาสตร์ พร้อมด้วย นางบุญนาค พนาสินติภาพ กรรมการอำนวยการ ทพ.สุเทพ ทัศนานุตริยกุล ประธานคณะกรรมการฝ่ายปฎิบัติการ นพ.วีรพจน์ ตามประทีป ผอ.ฝ่ายการแพทย์ (ฝ่ายระบบปฏิบัติการ) นพ.ศราวุฒิ ตั้งศรีสกุล ผอ.ฝ่ายการแพทย์ ผศ.นพ.พิงควรรศ คงมาลัย กรรมการบริษัท นายหะริณ โชคชัยชาญ ผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ คณะผู้บริหาร แพทย์ และประชาชนทั่วไป ร่วมในพิธีจำนวนมาก ในช่วงเช้ามีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ฉลองครบรอบ 28 ปี ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป นอกจากนี้ ยังนิทรรศการด้านสุขภาพ ร่วมสนุกจับฉลากแจกของที่ระลึก การออกบูธให้ความรู้ด้านสุขภาพต่างๆ มากมาย เช่น การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง รวมถึงการเปิดศูนย์ Check Up Center ซึ่งเป็นศูนย์การตรวจสุขภาพแบบครบวงจรอีกด้วย
โดย ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย กล่าวว่า บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร จำกัด มหาชน ที่นำโดย นพ.เมธ โชคชัยชาญ ประธานกรรมการ ได้ดำเนินการในฐานะเป็น โรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สุพรรณบุรี มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 28 ปี ท่ามกลางความเติบโตของสังคมเมืองสุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง มั่นใจได้ว่าเราจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ของโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ภาคกลางตะวันตก ด้วยการสร้างความพร้อมในการบริหารจัดการ การสร้างทีมแพทย์และทีมผู้บริหาร ด้านสุขภาพอนามัยและการบำบัดรักษาทางการแพทย์ยุคใหม่ ที่มีความซับซ้อน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมาย ซึ่งถือได้ว่าประเทศไทยมีความพร้อมทางด้านทีมแพทย์ระดับโลก ซึ่งโรงพยาบาลศุภมิตรเองไม่ทิ้งโอกาส จึงได้นำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นทางเลือกให้กับประชาชนภายใน จ.สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ประมาณ 12 จังหวัด
ซึ่งขณะนี้ศูนย์โรคตาของ รพ.ศุภมิตร ถือเป็นศูนย์ที่สำคัญในเรื่องของการรักษาโรคต้อกระจก และโรคอื่นๆ ที่กำลังขยายตัวมากขึ้น และอีกหนึ่งส่วนคือศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ หรือเวชศาสตร์ฟื้นฟูสำหรับรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อีกกลุ่มคือในกลุ่มวัยรุ่น คนทำงานที่ชอบเล่นกีฬาและได้รับบาดเจ็บก็ต้องอาศัยในเรื่องนี้ โดยทาง รพ.ศุภมิตร มีเครื่องมือที่ทันสมัย และบุคลากรที่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์แพทย์ในหลายๆ สาขา บูรณาการร่วมกันทำงาน ซึ่งที่ตั้งของโรงพยาบาลตรงนี้เป็นพื้นที่ชานเมืองที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เพียงแค่ 75 กิโลเมตร เดินทางมาได้ง่ายและสะดวกสามารถที่จะรองรับจากประชาชนที่กรุงเทพฯ
โดยจุดนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะให้บริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานเทียบเท่ากับโรงพยาบาลชั้นทำของกรุงเทพฯ ที่เรากำลังสร้างและพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเป็นองค์กรแห่งความสุข มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
