สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กรมควบคุมโรค แนะประชาชนในการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี โดยยึดหลัก 4 ขั้นตอนสำคัญ “เลือก เก็บ ใช้ ทิ้ง” ปลอดภัยจากการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กล่าวว่าในปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีทัศนคติและพฤติกรรมในเรื่องเพศเปลี่ยนไป วัยรุ่นเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย บางคู่คบกันไม่นานก็มีเพศสัมพันธ์แล้วและอาจมีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคน ดังนั้นการใช้ถุงยางอนามัยอย่าง ถูกวิธีเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
นายแพทย์สมาน กล่าวต่อไปว่า ถุงยางอนามัยถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ห่างไกลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยนั้นต้องใช้ให้ถูกวิธีจึงจะปลอดภัย กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำ 4 ขั้นตอนง่ายๆ “เลือก เก็บ ใช้ ทิ้ง” ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
เลือก ให้ถูกไซส์ ถุงยางอนามัยมีหลายขนาด ดังนั้นควรเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสม หากเลือกขนาดเล็กหรือใหญ่ไปจะทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดหรือหลุดได้ง่าย โดยมีวิธีวัดขนาดง่ายๆ ให้เริ่มจากวัดเส้นรอบวงของอวัยวะเพศเมื่อแข็งตัว แล้วหารด้วย 2 จะได้ขนาดที่พอดี เช่น เส้นรอบวง 10.6 เซนติเมตร ให้หารด้วย 2 ผลลัพธ์ที่ออกมาเท่ากับ 5.3 เซนติเมตร ถุงยางอนามัยที่สามารถใช้ได้ก็คือขนาด 52 หรือ 54 มิลลิเมตร นอกจากนี้ต้องตรวจดูวันผลิตหรือวันหมดอายุก่อนทุกครั้ง และต้องได้มาตรฐาน อย.
เก็บ ให้ถูกวิธี การเก็บถุงยางอนามัย นับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญเช่นกัน ไม่ควรเก็บถุงยางอนามัยในที่ร้อนเพราะความร้อนจะทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมคุณภาพ ไม่ควรเก็บไว้ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น กระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพราะจะทำให้ฉีกขาดได้ง่าย ซึ่งเกิดจากการนั่งทับ
ใช้ ให้ถูกวิธี เมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง อันดับแรกให้ฉีกซองแบบระมัดระวังอย่าให้เล็บสะกิดถุงยางอนามัย เพราะอาจจะทำให้ฉีกขาดได้ จากนั้นให้บีบปลายถุงยางอนามัยเพื่อไล่ลมก่อนใส่เสมอ หากมีฟองอากาศที่ปลายถุงยางอนามัยจะทำให้ฉีดขาดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้ สุดท้ายให้สวมถุงยางอนามัยขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว โดยบีบปลายถุงยางอนามัยขณะสวมแล้วรูดให้สุดโคน
ทิ้ง ให้ปลอดภัย ขั้นตอนสุดท้ายแต่สำคัญที่สุด เมื่อเสร็จกิจให้รีบถอดถุงยางอนามัยออกตอนที่อวัยวะเพศยังแข็งตัวอยู่ โดยใช้นิ้วสอดเข้าในขอบถุงยางอนามัย หรือใช้กระดาษทิชชู่ห่อแล้วรูดออก จากนั้นทิ้งลงถังขยะให้มิดชิด ห้ามทิ้งลงชักโครก หรือในแม่น้ำ ลำคลอง เด็ดขาด หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 นายแพทย์สมาน กล่าวปิดท้าย