จากรายงาน คดีน่าสนใจ ถึงศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เมื่อเวลาประมาณ 10.36 น. วันที่ 5 มิถุนายน 2562 ถึง พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และ ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องงาน ปราบปรามการโจรกรรมรถ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจภูธรภาค 7 โดย พันตำรวจเอก ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 03.15 น .ได้มีเหตุคนร้าย ไม่ทราบเป็นผู้ใดและจำนวนกี่คน เข้าไปลักทรัพย์รถยนต์ กระบะ toyota hilux vigo สีเทาหมายเลขทะเบียน 2 ฒภ. 2830 กทม.ของนางสาวฉวีวรรณ การะเวก อายุ 37 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 8 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยรถยนต์ ดังกล่าวผู้เสียหายได้จอดไว้บริเวณหน้าบ้าน เลขที่ 55/5 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 หมู่ที่ 2 ตำบลบางกระทึกอำเภอสามพรานจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ติดถนน พุทธมณฑลสาย 5 ต่อมา จากการสืบสวน และปฏิบัติการของพันตำรวจโท ครรชิต โขวัฒนชัย รองผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว ร้อยตำรวจเอก กาวี เขียวงาม ร้อยตำรวจโท ประสาน พวงสมบัติ ดาบตำรวจ ไวพจน์ อินทอง ดาบตำรวจ ธนพัต น้ำดอกไม้ ดาบตำรวจ ปัญญา เข็มทอง ดาบตำรวจ เกียรติศักดิ์ แก้วเจริญ พร้อมพวก ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนทำให้ทราบว่าคนร้าย ที่ลงมือ คือ นายจิราพัชร หรือเก่ง เปลี่ยมสิริอายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามฐานข้อมูลประชากร เลขที่ 7 หมู่ 1 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลก จึงออกสืบสวนติดตาม จับกุนายเก่งได้ แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำลายสิ่งกีดกั้น ทรัพย์นั้น บุกรุกเคหสถาน ในเวลากลางคืนฯ”
พร้อมทั้งจับกุมนายณัฏฐ์ หรือหน่อง มิตรเอม อายุ 51 ปี(เจ้าของ เต็นท์ขายรถมือสอง ในจังหวัดพิษณุโลก) ที่อยู่ตามฐานข้อมูลประชากรเลขที่ 128/17 หมู่ 2 ตำบลบึงพระ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งรับซื้อรถยนต์ คันที่นายเก่ง ลักไปในราคา 1 แสนบาท แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร” และสามารถติดตามรถยนต์ของกลาง ได้ที่อู่แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลกโดยรถ คันดังกล่าวได้ถูกถอดแยกชิ้นส่วน ออกเกือบหมดทั้งคัน โดยทางอู่อ้างว่า นายณัฏฐ์หรือหน่อง เจ้าของเต็นท์รถนำมาว่าจ้าง ให้ถอดเพื่อจะพ่นทำสีใหม่เป็นสีขาว นำตัวผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์ของกลางส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสอบสวนดำเนินคดี
โดยในเบื้องต้น จากการขยายผล ตรวจสอบฐานข้อมูล ทะเบียนประวัติ พบว่า นายจิราพัชร หรือเก่ง เคยต้องคดี พยายามฆ่า บุกรุก ติดคุกมาประมาณ 5 ปีเศษ และยังตรวจพบว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับ อยู่ 3 หมาย คดียาเสพติด คดีบุกรุก และคดีพยายามฆ่า
จากการขยายผลนาย จิราพัชร หรือเก่งอ้างว่า ไม่มีรายได้จึงขับรถตะเวนเห็นรถของผู้เสียหายจอดอยู่ที่หน้าบ้านไม่มีรั้วจึงเข้าไป โจรกรรม แต่ที่น่าสังเกตคือ คนร้ายได้แอบย่องขึ้นไปบน ชั้น 2 ของบ้านผู้เสียหายแล้วแอบขโมยกุญแจรถยนต์มาขับออกไปโดยก่อนลงมือได้ขับรถจักรยานยนต์ มาดูลาดเลา หลังจากโจรกรรมรถยนต์ไปได้ก็ ไปนำรถจักรยานยนต์ที่จอด ทิ้งไว้ห่างออกไปขึ้นท้ายรถยนต์กระบะแล้วขับตระเวนไปในหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ อำเภอสามพราน ด้านพุทธมณฑลสาย 5 ก่อนจะขับรถ ไปขายให้ นายหน่องที่จังหวัดพิษณุโลก
ซึ่งจากพฤติกรรม ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่เชื่อว่า ผู้ต้องหารายนี้จะลงมือเป็นครั้งแรกซึ่งลักษณะการกระทำคล้าย เป็นมืออาชีพที่ทำงานตามใบสั่ง ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนกำลังสอบ พยานแวดล้อมว่าพฤติกรรมของอู่ ที่ลงมือถอดแยกชิ้นส่วนที่อ้างว่า นายหน่องเจ้าของเต็นท์ มาว่าจ้างให้ถอดเพื่อทำการพ่นสีใหม่ แต่ลักษณะการกระทำคล้ายกับถอดชิ้นส่วนเพื่อเตรียมจะแยกหีบห่อแล้วส่งออก ขายต่างประเทศ แบบชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อไปประกอบเป็นคัน เพื่อหลบเลี่ยงการ สกัดจับกุมของ เจ้าหน้าที่ตามเส้นทางหากต้องขับไปทั่งคัน พันตำรวจเอก ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ได้ฝากเตือนภัยถึงประชาชนผู้ ใช้รถทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ให้ดูแลป้องกันทรัพย์สินของตนเองให้รอบคอบรัดกุม ล็อกป้องกันหลายๆอย่างรวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์นำทาง หากเกิด การโจรกรรมจะได้สามารถตรวจสอบติดตามรถได้ง่ายขึ้น รายนี้ถือว่าโชคดีที่ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว ทางท้องถิ่นทาง อบต.และ ประชาชน ในพื้นที่ได้มีการติดตั้ง กล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งให้ความร่วมมือ ทำให้การสืบสวนติดตามหลังเกิดเหตุ รู้ถึงเส้นทางของคนร้าย ทำให้สามารถติดตามจับกุม รวมทั้งติดตามทรัพย์สิน คือรถยนต์คันที่ถูกโจรกรรมกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว…
พิราบ 5 ภาพ / ข่าว