ผู้ว่าฯนราธิวาสในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนราธิวาส (อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัย อ.สุไหงปาดี และอ.เจาะไอร้อง พบน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่สวนปาล์มประชาชนเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่สะพานในหมู่บ้านถูกตัดขาด พร้อมสั่งการเร่งระบายน้ำและซ่อมแซมถนนอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน
วันนี้ 17 ธ.ค.61 เวลา 15.00 น. นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนราธิวาส (อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ) พร้อมด้วยพันโทนภดล พรหมมาก รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพราน ที่ 48 นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ในฐานะเลขาศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนราธิวาส (อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ) นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านปิเหล็ง ต.โคกสะตอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งพบว่าบริเวณบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่การเกษตรมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสพร้อมคณะเดินทางไปยังหมู่บ้านบาโงดุดง ม.6 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสอบการระบายน้ำบริเวณสวนปาล์มและบริเวณโรงเรียนราชภักดี ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเน้นย้ำเร่งระบายน้ำออกพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่ง ด่วน และจากกระแสน้ำเชี่ยวกราด ส่งผลให้สะพานภายในหมู่บ้านถูกตัดขาด ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสสั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แก้ไขปัญหา ซ่อมแซมถนนหนทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก
ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 10 รายงานว่าในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมีเมฆกับฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนสะสม ซึ่งอาจให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง ขณะเดียวกันขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน