ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พันตำรวจเอก ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ว่า เมื่อกลางดึกของ วันที่ 3 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายบุกเดียวมีมีดยาวเป็นอาวุธ แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้น พร้อมเอี้ยมคลุม สวมหมวกและหน้ากากปิดบังใบหน้า พลางตัวเข้าไปใน โรงงาน ทิพย์นิรมิต แกะสลักพระหิน เลขที่ 34/7 ม.1 บางแก้ว นครชัยศรี นครปฐม (ริมถนนเพชรเกษม ขาเข้าสุดโค้งป่าไม้ก่อนถึงปั๊ม ปตท.ประเสริฐชัย)ลักเอาทรัพย์สินเป็นพระหินแกะสลัก เพชรน้ำบุษย์จำนวน2องค์ พระแก้วทรงเครื่องหินน้ำโขง และ พระ พุทธรูปหินแกะสลักอื่นๆรวม11องค์ มูลค่ารวมกว่า 185,800 บาท ขณะหลบหนีคนร้ายได้ทำพระหยกดำหนึ่งองค์ ตกไว้ในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้น คนร้ายยังได้งัดรถยนต์จำนวน 4 คัน ของเจ้าทรัพย์ที่จอดอยู่ แต่ไม่สำเร็จ เจ้าของทรัพย์มาทราบในวันรุ่งขึ้นเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้าย 1 คน เข้ามาปฏิบัติการจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี ห้ามสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน 7 จึงได้มาทำการตรวจเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝง
ต่อมาวันที่ 6 ธันวาคม 61 เวลาประมาณ 02.20 น. คนร้ายคนเดิม(ดูตากกล้องวงจรปิก)ได้เข้ามาในร้านเดิมอีกครั้งพร้อมอาวุธ จากทางหน้าโรงเหล็กซึ่งติดกับพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าของทรัพย์ พึ่งได้ ผลัดกันเฝ้าระวัง อยู่แล้วเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกขั้นตอนที่คนร้ายเข้ามา จึงประสานเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยเบอร์ตรงตามที่ ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ไว้ในครั้งแรก มาร่วมปิดล้อม และสามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายนริศ หรือกิ๊ก โพธิ์มี อายุ 30 ปี พร้อมของกลางอาวุธและยาบ้าที่พกติดตัวมาอีกจำนวนหนึ่ง โดยนายนริศ หรือกิ๊ก บ้านอยู่ย่านอำเภอพุทธมณฑล ชื่อหมู่บ้านที่คนร้ายอยู่อาศัย ชาวบ้านจะเรียกว่า หมู่บ้านโจร
หลังจับกุมตัวได้จึงทำการขยายผล นายนริศ รับว่า เข้ามาลักทรัพย์เป็นพระพุทธรูปหินหยก ตามใบสั่งส่งพระไปขายที่แหล่งรับซื้อใน จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตามล่อจับและยึดของกลางทั้งหมดคืนได้ ประกอบด้วย
1.พระแก้วมรกตทรงเครื่อง
2.พระพุทธเจ้าแบบขอมปางสมาธิ
3.พระพุทธรูปสุโขทัยปางสมาธิ
4.พระพุทธเจ้าทรงเครื่องแบบพม่า
5.พระแก้วมรกต
6.พระพุทธสิงห์หนึ่งหินเขียวอินเดีย
7.พระแก้วมรกตหินเขียว
8.พระแก้วมรกตหินเขียว
9.พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร
10.ท้าวเวสสุวรรณ โดยใช้เวลาสืบสวนติดตามจับกุมได้ภายในเวลา 20 ชม. แจ้งฐานความผิด
นายนริศ หรือกิ๊ก โพธิ์มี ว่า
“ลักทรัพย์ พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดย ทำลายสิ่งกีดกั้นคุ้มครองทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนีหรือพาทรัพย์นั้นไป , มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย”
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 11.30 น. นางชรินทร์ทิพย์ รัตนินพรกุล เจ้าของโรงงาน ทิพย์นิรมิต แกะสลักพระหิน เจ้าของทรัพย์ พร้อมด้วย นางสาว ศรุดา รัตนินพรกุล (ลูกสาว)และนายวสุศุภณัฏฐ์ รัตนินพรกุล (ลูกชาย) ได้เดินทางมารับทรัพย์สินของกลาง ทั้ง 10 รายการคืน โดยมี พันตำรวจเอก ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส.สภ.นครชัยศรี ร.ต.อ.ภัทร บุญอารักษ์ รอง สว.สส.ฯ ร.ต.ท.พุฒิวัชร์ ทิมแสงจันทร์ รอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน จับกุมและพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.นครชัยศรี รวมส่งมอบทรัพย์สินของกลางคืนให้กับเจ้าของทรัพย์นำไปเก็บรักษา
นางชรินทร์ทิพย์ รัตนินพรกุล เจ้าของ โรงงาน ทิพย์นิรมิต แกะสลักพระหิน เจ้าของทรัพย์ และ นางสาว ศรุดา รัตนินพรกุล (ลูกสาว) เผยว่า หลังจากที่คนร้ายบุกเข้ามาลักพระพุทธรูปแกะสลักหินต่างๆไปในวันแรก จึงได้กราบไหว้ บอกกล่าว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบอกกล่าวถึงพระพุทธรูปทุกองค์ที่ถูกคนร้ายพาไปช่วยดลบันดาล ขอให้จับโจรให้ได้ และขอให้พระพุทธรูปทั้งหมดที่ถูกลักพาไปกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว ซึ่งก็ได้ผล ขณะเดียวกันก็รู้สึก ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ลงมา ร่วมกันสืบสวน จนสามารถ จับกุมและติดตาม ทรัพย์สินคืนได้จนครบด้วยระยะเวลาเพียง 20 ชั่วโมง
แต่ก่อนบอกตรงๆว่า มีความรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจจะได้ยินได้ฟังคนอื่นพูดแต่เมื่อมีเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวกับตัวเองแล้วเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจของนครชัยศรี พวกเรารู้สึกปลื้มใจและเปลี่ยนความรู้สึกเดิมไปอย่างสิ้นเชิง และยิ่งประทับใจตรงที่เราถามตำรวจว่าต้องการรางวัลอะไรตอบแทน ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายว่า ตำรวจมีหน้าที่ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนทุกคนให้อยู่อย่างปลอดภัยและเป็นสุข เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นกับประชาชนตำรวจก็ต้องทำเต็มที่เพื่อให้จับคนร้ายให้ได้ ติดตามทรัพย์สินของกลางคืนมาให้ได้ เท่านี้ก็คือสิ่งตอบแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายอยู่แล้ว
ยิ่งได้ยินคำนี้ยิ่งปลื้มใจที่สุดและในวันประชุมบริหารตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พวกเราจะขอไปแสดงความขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายของสถานีตำรวจนครชัยศรีอีกครั้ง ต่อที่ประชุม ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจนครปฐม และผู้บังคับบัญชาระดับสูงระดับภาค 7 ด้วย อีกครั้งต่อไป…